"10 อันดับหนังรักที่คุณไม่ควรพลาด"
10
The End of the Affair
สุดยอดหนังโรแมนติกในแบบชู้สาวผิดทำนองคลองธรรม
หนังใช้วิธีเล่าเรื่องตัดสลับสองช่วงเวลาคือ
ปี 1944 ที่ 'เบนดริกซ์'
(Ralph Fiennes) นักเขียนนิยายเริ่มคบชู้กับ 'ซาร่าห์'
(Julianne Moore) ภรรยาของ 'เฮนรี่'
(Stephen Rea) เพื่อนผู้เป็นต้นแบบตัวละครในนิยายของเขา และอีกช่วงเวลาคือสองปีหลังจากเบนดริกซ์ถูกซาร่าห์ทิ้ง
เขาได้มาพบเฮนรี่โดยบังเอิญอีกครั้ง
ซึ่งกำลังวิตกกังวลว่าภรรยาตัวเองอาจจะมีคนอื่น ด้วยความหึงหวงชู้รักเก่า
เบนดริกซ์เลยจัดการจ้างนักสืบสะกดรอยตามว่าเธอไปทำอะไรที่ไหนกับใคร
9
The Age of Innocence
สุดยอดหนังรักต้องซ่อน
หนังพีเรียดย้อนไปช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ว่าด้วยเรื่องของธรรมเนียมปฏิบัติต่าง ๆ
ของสังคมชั้นสูงซึ่งส่งผลกระทบต่อความรักของ 'อาเชอร์'
(Daniel Day-Lewis) เขาเป็นคู่หมั้นของ 'เมย์'
(Winona Ryder) แต่ดันไปหลงรักกับ 'เอลเลน'
(Michelle Pfeiffer) ลูกพี่ลูกน้องของเมย์ที่พึ่งแยกตัวจากสามีและตามธรรมเนียมสมัยนั้นก็คือสังคมไม่ยอมรับการที่เธอจากสามีมาแบบนี้
ประกอบกับลักษณะนิสัยของเธอเมื่อเทียบกับผู้หญิงด้วยกันในยุคนั้นก็อาจจะเรียกได้ว่าเป็นหัวสมัยใหม่ที่ไม่ยึดติดกับธรรมเนียมต่าง
ๆ ยิ่งทำให้ในสังคมไม่ค่อยยอมรับในตัวเธอสักเท่าไร
ก็ได้อาเชอร์คอยช่วยเหลือให้เอลเลนสามารถเข้าสังคมได้
เมื่อได้พูดคุยกับเธอก็ยิ่งสนใจในตัวเธอจนเกิดเป็นความรัก
แต่เขาก็ตระหนักดีว่าเขามีคู่หมั้นอยู่แล้ว
แถมเอลเลนก็ยังไม่ได้หย่าขาดกับสามีเพราะเป็นเรื่องที่สังคมสมัยนั้นไม่อาจยอมรับได้
จนเมื่ออาเชอร์แต่งงานยิ่งทำให้เขาทบทวนตัวเองและคิดว่าผู้หญิงที่เขาอยากอยู่ด้วยคือเอลเลน
แต่จะทำอย่างไรในเมื่อผู้หญิงที่เขากับเอลเลนกำลังทรยศคือคนที่ไว้ใจทั้งคู่ที่สุด
8
Annie Hall
สุดยอดหนังรักความสัมพันธ์ชีวิตรักแบบผู้ใหญ่
หนังความสัมพันธ์ชีวิตคู่แบบผู้ใหญ่ด้วยวิธีการเล่าเรื่องไม่ลำดับเวลา
เปิดเรื่องด้วยการให้รับรู้ว่า 'อัลวี่'
(Woody Allen) นักแสดงตลกเพิ่งเลิกกับ 'แอนนี่'
(Diane Keaton) ก่อนจะพาไปดูช่วงบั้นปลายความสัมพันธ์
แล้วย้อนไปดูคนรักคนก่อน ๆ ของเขาแล้วกลับมาฉายภาพจุดเริ่มต้นของอัลวี่กับแอนนี่
จนถึงจุดที่เกิดความเปลี่ยนแปลงจนต้องเลิกกัน
ก่อนที่จะปิดหนังด้วยความเห็นของแอลวี่ที่มีต่อความสัมพันธ์ของมนุษย์
7
Like Crazy
สุดยอดหนังรักพูดถึงความสัมพันธ์ที่ต้องห่างกันข้ามทวีป
'แอนนา' (Felicity Jones) นักเรียนจากอังกฤษคบอยู่กับ 'จาคอบ' (Anton Yelchin) ระหว่างที่เธอเรียนในอเมริกา แต่เมื่อถึงช่วงวีซ่าหมดอายุ เธอเห็นแก่ความสุขช่วงเวลานั้นจึงไม่ได้เดินทางกลับอังกฤษเป็นเหตุให้เธอถูกกีดกันไม่ให้เข้าอเมริกา และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของ 'ระยะทาง' อันเป็นอุปสรรคของความสัมพันธ์
6
Once
สุดยอดหนังเพลงแสนโรแมนติก
5
Midnight in Paris
สุดยอดหนังปารีสโรแมนซ์
'กิล' (Owen Wilson) นักเขียนหนุ่มผู้โหยหาอดีตเดินทางไปเที่ยวปารีสกับครอบครัวของคู่หมั้น ทั้งคู่เกิดความขัดแย้งในเรื่องของการวางแผนชีวิตหลังแต่งงาน แล้วมันก็เกิดเรื่องประหลาดเมื่อทุกคืน กิลสามารถย้อนเวลาไปยังยุค 1920s ที่เขาโหยหา ซึ่งทำให้เขาเริ่มรู้สึกเทใจออกห่างจาก 'อิเนซ' (Rachel McAdams) คู่หมั้นของเขาเมื่อได้พบปะพูดคุยกับนักเขียนและศิลปินดังในอดีต
4
Revolutionary Road
สุดยอดหนังทำลายภาพความฝันแสนสุขของครอบครัวอเมริกัน
เอพริลพยายามหาทางให้ครอบครัวมีชีวิตชีวาด้วยการยื่นข้อเสนอให้สามีย้ายครอบครัวไปปารีส โดยเธอจะเป็นคนหาเลี้ยงครอบครัวเพื่อให้แฟรงค์ได้มีอิสระตามหาฝันของตัวเอง แต่ชีวิตมันไม่ได้ง่ายอย่างนั้นเสมอไป
3
Definitely, Maybe
สุดยอดหนังโรแมนติกคอเมดี้ชั้นดี
คุณพ่อ 'วิล เฮย์' (Ryan Reynolds) กำลังจะเซ็นใบหย่าที่ส่งมาโดยภรรยา ในคืนนั้นเองเขาได้เล่าความหลังให้ 'มายา' (Abigail Breslin) ลูกสาวคนเดียวฟังถึงหญิงสาวที่เขาเคยเกี่ยวข้องด้วยสามคนก่อนแต่งงาน โดยใช้นามสมมุติเพื่อไม่ให้ลูกสาวรู้ว่า 1 ใน 3 คนนี้ คนไหนคือแม่ของเธอ ระหว่าง
'เอมิลี่' (Elizabeth Banks) คนรักที่คบกันตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย จุดแยกทางครั้งแรกเกิดขึ้นเพราะความกลัวของหญิงสาวที่เคว้งเพราะความห่างไกล และกลัวสภาพสังคมจะเปลี่ยนแฟนหนุ่มโดยที่เธอก้าวตามไม่ทัน
'เอพริล' (Isla Fisher) หญิงสาวที่เราคงจะดูถูกความคิดความอ่านของเธอด้วยตำแหน่งงานพนักงานซีร็อกซ์ แต่เมื่อเราได้เห็นเธอโต้คารมกับ 'วิล' แต่ละครั้งก็พบว่าเธอฉลาด ความคิดทันสมัย และเข้ากันได้ดี แต่ด้วยความสนิทสนมมากเกินไปก็อาจทำให้คนบางคนตกหลุมอยู่ใน friend zone ไม่อาจก้าวขึ้นมา หรืออาจจะขึ้นมาเมื่อสายเกินไป
'ซัมเมอร์' (Rachel Weisz) นักเขียนหญิงเก่งกาจฉลาดและมีความทะเยอทะยาน เราเห็นความรักของคู่นี้ในลักษณะของความลุ่มหลงแต่เริ่มแรก แต่ขณะเดียวก็ได้เห็นว่าคู่นี้คบกันแล้วต่างเกื้อหนุนหน้าที่การงานซึ่งกันและกัน เหมือนต่างเป็นแรงผลักดันความทะเยอทะยานของทั้งคู่ แต่มันก็ต้องมีจุดหนึ่งที่ต้องเลือกระหว่างหน้าที่การงานกับการรักษาความสัมพันธ์
ความน่าสนใจของหนังไม่ได้อยู่แค่การต้องมาลุ้นว่ารักไหนคือแม่ของมายา แต่มันชวนให้ติดตามว่าบทสรุปหลังเฉลยจะเป็นอย่างไร
2
Lost in Translation
สุดยอดหนังชวนเหงา
'บ็อบ แฮริส' (Bill Murray) นักแสดงขาลงวัยกลางคน กำลังประสบปัญหาเบื่อหน่ายภรรยา แล้วยังต้องมารับงานถ่ายโฆษณาที่เขารู้สึกอึดอัดในญี่ปุ่นอีก
'ชาล็อตต์' (Scarlett Johansson) นักศึกษาพึ่งจบปริญญาด้านปรัชญา ติดตามสามีที่เป็นช่างภาพมาทำงานที่ญี่ปุ่น ด้วยความที่สามีต้องทำงานทั้งวันจึงไม่มีเวลาให้กับเธอ ตลอดเวลาที่เธออยู่คนเดียวจึงรู้สึกเหงาในดินแดนที่ไม่สามารถสื่อสารภาษาตัวเองกับคนอื่นได้
ทั้ง 'บ็อบ' และ 'ชาล็อตต์' จึงมีความเหมือนกันคือ 'รู้สึกตัวคนเดียว' เบื่อหน่ายตัวเองในญี่ปุ่น จนเมื่อทั้งสองคนเริ่มต้นทักกัน เห็นกันบ่อยขึ้น ผูกมิตรกัน จึงตกลงกันออกไป 'สร้างพื้นที่ส่วนตัว' ของตัวเองในญี่ปุ่น
1
Blue Valentine
สุดยอดหนังรักความสัมพันธ์หลังแต่งงาน
หนังเล่าเรื่องความสัมพันธ์ของ 'ดีน' (Ryan Gosling) ตอนหล่อมีเสน่ห์สลับตอนหัวเริ่มจะล้านลงพุง กับ 'ซินดี้' (Michelle Williams) โดยตัดสลับกันไปมาระหว่างช่วงรักแรกพบและช่วงชีวิตหลังแต่งงาน ยามรักทุกอย่างก็ดูดีไปหมด ซินดี้เองก็พอใจกับความรักที่เทพบุตรดีนมีให้ แต่เมื่อแต่งงานกัน ชายหนุ่มพอใจกับชีวิตตอนนี้ ขอแค่อยู่ใกล้ชิดกับครอบครัว ไม่ได้มีความทะเยอทะยานในเรื่องอาชีพการงาน ในขณะที่หญิงสาวเริ่มมองถึงความก้าวหน้าในอาชีพ รวมถึงความรักที่เริ่มเจือจางลง และฝ่ายสามีก็พยายามประคับประคองรักษาความสัมพันธ์อย่างสุดความสามารถ
ขอบคุณ:เพจ หนังโปรดของข้าพเจ้า
#OHMAN
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น